เมื่อเวลา 14.14 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. อภิปรายตอนหนึ่งว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเลือกประธานาธิบดี หรือการเลือกนายกฯโดยตรง เหมือนที่กลุ่มบุคคลที่เป็นกองทัพอวตารแก้วสามประการพยายามกดทับบูลลี่ ว่านี่คือเสียงข้างมากประชาชนเลือกแล้ว ต้องบังคับให้ส.ว.เลือกด้วย ซึ่ง ส.ว. ทั้งหมดที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างสมบูรณ์สิทธิมีคะแนนเสียงเช่นเดียว ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง

ดังนั้น การทำหน้าที่ของ ส.ว.จะทำด้วยความซื่อสัตย์ นึกถึงผลประโยชน์ประเทศ โดยเอาชาติ ศาสน์ กษัตร์ เป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ การเลือกนายกฯก็เหมือนกับที่เราเคยปฏิบัติในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภาที่ต้องทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย โดยยืนยันว่า ตลอด 4 ปี ที่ทำหน้าที่ ส.ว.ทั้ง 250 คน พิจารณาเรื่องต่างๆอย่างครบถ้วนสมบูรูณ์ไม่มีอคติ ไม่มีอามิสสินจ้างใดๆ แต่ปรากฎว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามีการใช้สมาชิก ใช้มวลชนบนท้องถนน และกองทัพอวตารในโซเชี่ยล โจมตีส.ว. แต่ตนจะทำหน้าที่วันนี้ด้วยความไม่เกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้น

 “สมชาย” บอก “พิธา” ยังไม่เหมาะนั่งนายกฯ ขอเลิกอ้าง 14 ล้านเสียง

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ตนพิจารณาการเลือกนายกฯจากความซื่อสัตย์สุจริต มีความรอบรู้ มีวิสัยทัศน์ และสร้างแรงบันดาลใจได้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือความมั่นคงของชาติ ตั้งแต่ขอบเขตของรัฐ การปกครอง องค์รัฏฐาธิปัตย์ และหลักนิติธรรม ตนไม่สบายใจการรณรงค์ของคนบางกลุ่ม ที่ยังโหยหาอดีตโดยไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ต์ที่แท้จริง ตนอยากบอกว่าอย่าโหยหาอดีตอีกเลยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“ต้องเลิกอ้างเสียงข้างมาก 14 ล้านเสียง แล้วบังคับคนทั้งประเทศว่าต้องเห็นด้วย แบบนั้นผิดหลักประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ เรากำลังเข้าสู่การเมืองที่เราอยากเห็นประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เราอยากเห็นความสงบ วันนี้เราเดินเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตยแล้ว อย่าใช้สังคมกดทับ อย่าใช้ประชาธิปไตยแบบฟุ่มเฟือย หรือเลือกพวกข้าเท่านั้นที่ถูก เลือกพวกเอ็งผิด แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้าเลือกทางเดินแบบสุดโต่ง สร้างลัทธิสุดโต่งครอบงำเยาวชน ผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา พิจารณาแล้วเห็นว่านายพิธา ยังไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ” นายสมชาย กล่าว

By admin